วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

การประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม





การประหยัด พลังงานไฟฟ้า ในโรงงานอุตสาหกรรม








                     
          การประหยัดพลังงานของโรงงาน หมายถึงการลดใช้พลังงานลงโดยการจัดการใช้พลังงานให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ ประโยชน์สูงสุด โดยไม่ทำให้กระบวนการผลิตลดลงและไม่ทำให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลง


จำเป็นแค่ไหน

         พลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงานที่มีความจำเป็นและการใช้ในการผลิตของทุกโรงงาน ความจำเป็น และความสำคัญของการประหยัดพลังงานไฟฟ้า  จึงไม่ใช่เพียงแต่เอื้อ ประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเพียงเท่านั้นแต่ยังเป็นความจำเป็นและมี ความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ไทยในปัจจุบัน ยังต้องพึ่งเชื้อเพลิงนำเข้าจากต่างประเทศ และมีแนวโน้มว่าจะต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้นตามปริมาณความต้อง การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม   ซึ่งเป็นสาขาที่มีความต้องการไฟฟ้าสูงสุด ดังจะเห็นได้จากรายงานสถานการณ์ พลังงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี พศ. 2543
ระบุว่าภาคธุรกิจอุตสาหกรรมยังต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.3


มีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร


          กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงานได้เสนอแนะว่าการประหยัดพลังงานในโรงงาน ควรมีการดำเนินเป็นขั้นตอนโดยเริ่มจากเทคโนโลยีที่ง่ายที่สุด และใช้เงินลงทุนน้อยที่สุดไปจนถึงงานที่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง และเงินลงทุน มากได้แก่

          1. การบำรุงรักษาและการดูแลเบื้องต้น (House Keeping) การประหยัดพลังงานโดยวิธีนี้  เป็นการปรับแต่งเครื่อง และการทำงานต่างๆ เช่น การกำหนดให้มีกรรมวิธีดูแลรักษาที่ถูกต้อง วิธีเหล่านี้โดยมากแล้วจะไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หรือเป้นมาตรการที่เสียค่าใช้จ่ายน้อย แต่มีระยะคืนทุนสั้นๆ คือน้อยกว่า 4 เดือน
                           
          2. การปรับปรุงขบวนการเดิมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น หรือทำให้การสูญเสียต่างๆ ลดน้อยลง ซึ่งจะต้องอาศัยการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด โดยทั่วไปมาตรการนี้จะต้องการเงินลงทุนปานกลาง โดยมีระยะเวลาคืนทุน1 - 2 ปี
                         
          3. การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์หรือระบบ (Major Change Equipment)   เมื่อการตรวจวิเคราะห์ขั้นต้นชี้ให้เห็นว่า
สามารถ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มาก โดยการเปลี่ยนหรือเพิ่มอุปกรณ์ ทั้งนี้จะต้องมีการประเมินผลตอบแทนทางการเงินที่ได้จากการดำเนินการมาตรการ ดังกล่าว     ถ้าพบว่ามีความสอดคล้องเข้ากับเกณฑ์การลงทุนของฝ่าย บริหาร ก็จะเสนอขอความเห็นชอบ มาตรการนี้จะต้องมีการลงทุนสูงโดยมีระยะเวลาคืนทุน 2-5 ปี


ทำอย่างไรได้บ้าง


          การประหยัด พลังงานไฟฟ้า ในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
                   
                        -  การปรับปรุงต้นพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วยการผลิต
                        -  การปรับปรุง Load Factor ให้สูงขึ้น
                        -  การปรับปรุงค่า Power factor
                        -  การควบคุมค่ากำลังไฟฟ้าสูงสุดของโรงงาน
                           
         ซึ่ง แต่ละวิธีสามารถทำได้โดยการบริหารจัดการ การปรับปรุงการทำงาน  การใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพการลดการสูญเสีย การบำรุงรักษา ตลอดจนการใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้า












วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

กำลังไฟฟ้า


กำลังไฟฟ้า
      กำลังไฟฟ้า  คือ  พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปในหนึ่งหน่วยเวลา  มีหน่วยเป็น  จูลต่อวินาทีหรือวัตต์ เขียนสมการ ได้ดังนี้




 เมื่อ
                     P        =         กำลังไฟฟ้า         มีหน่วยเป็นจูลต่อวินาทีหรือวัตต์
                    W        =        พลังงานไฟฟ้า    มีหน่วยเป็นจูล
                      t         =         เวลา                  มีหน่วยเป็นวินาที
พิจารณาวงจรไฟฟ้า

     วงจรไฟฟ้า  ซึ่งประกอบด้วย  แหล่งจ่ายไฟฟ้า  (เซลล์ไฟฟ้า)  ต่อเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้า  (ตัวต้านทาน)  ดังรูป


 จากวงจรไฟฟ้าที่กำหนดให้   เมื่อต่อวงจรครบวงจร   เซลล์ไฟฟ้าจะให้ประจุ +Q  คูลอมบ์  ในเวลาt  วินาที ประจุไฟฟ้า Q   เคลื่อนที่ไปได้      เนื่องจากพลังงานของเซลล์ไฟฟ้าที่ให้ออกมา   และขณะประจุ Q   เคลื่อนที่ผ่าน
ความต้านทาน (R)   ย่อมสูญเสียพลังงานไปส่วนหนึ่ง

   เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะใช้พลังงานไฟฟ้าต่างกัน  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า  ซึ่งทราบได้จากตัวเลขที่กำกับไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า  ที่ระบุทั้งความต่างศักย์ (V) และกำลังไฟฟ้า (W)

    ตัวอย่าง  หลอดไฟฟ้า มีตัวเลขกำกับว่า 220V  60W

                220V  หมายถึงหลอดไฟฟ้านี้ใช้กับความต่างศักย์ 220 โวลต์

                ซึ่งเราต้องใช้ให้ตรงกับค่าความต่างศักย์ที่กำหนดมา

                60W หมายถึงค่าของพลังงานไฟฟ้าที่หลอดไฟฟ้าใช้ไปในเวลา 1 วินาที

                ซึ่งเรียกว่า กำลังไฟฟ้า  การวัดพลังงานไฟฟ้า ใช้หน่วยเป็นจูล  ตัวเลข 60W จึงหมายถึง ขณะเปิดไฟ หลอดไฟฟ้านี้จะใช้พลังงานไฟฟ้า 60 จูล ในเวลา 1 วินาที

                กำลังไฟฟ้ามีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าและความต่างศักย์ที่เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นต่ออยู่ โดยกำลังไฟฟ้ามีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างความต่างศักย์กับกระแสไฟฟ้า

                จะได้  P=VI

                ถ้า  P  แทนกำลังไฟฟ้ามีหน่วยเป็นวัตต์

                     V  แทนความต่างศักย์มีหน่วยเป็นโวลต์

                     I   แทนกระแสไฟฟ้ามีหน่วยเป็นแอมแปร์

        โดยทั่วไปนิยมวัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหน่วยที่ใหญ่กว่าหน่วยจูล โดยวัดกำลังไฟฟ้าเป็นกิโลวัตต์ และคิดช่วงเวลาเป็นชั่วโมง ดังนั้น พลังงานไฟฟ้าจึงวัดได้เป็น กิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือเรียกว่าหน่วยหรือยูนิต

         ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านเรือนทั่วไปมีความต่างศักย์ 220 โวลต์ คงที่  ดังนั้นในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะใช้พลังงานไฟฟ้ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนชนิด ขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า และระยะเวลาในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า  การไฟฟ้าจะคิดเงินค่าพลังงานไฟฟ้าที่แต่ละบ้านใช้ไปโดยใช้เครื่องวัดติดไว้บนเสาไฟฟ้าหน้าบ้านของผู้ใช้ไฟฟ้า เรียกว่า กิโลวัตต์-ชั่วโมง มิเตอร์หรือมาตรไฟฟ้า  ซึ่งวัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปเป็นกิโลวัตต์-ชั่วโมง เรียกกันทั่วไปว่า หน่วยหรือยูนิต

          ขณะใช้พลังงานไฟฟ้าจะมีกระแสไฟฟ้าผ่านมาตรไฟฟ้ามากหรือน้อย  ตามพลังงานไฟฟ้าที่ใช้  ดังนั้นจึงมีการออกแบบมาตรไฟฟ้าขนาดต่างๆ ตามปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในเวลา 1 วินาที เช่น มาตรไฟฟ้าขนาด 5,15,50 แอมแปร์  สถานที่ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามาก  เช่น  โรงานอุตสาหกรรมต่างๆ โรงแรมหรือสถานที่ที่ใช้เครื่องปรับอากาศหลายเครื่อง  ต้องเลือกขนาดของมาตรไฟฟ้าให้เหมาะสม  สามารถทนต่อกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านได้  ถ้ากระแสไฟฟ้าไหลผ่านมาตรไฟฟ้ามากเกินกว่าที่กำหนด จะทำให้มาตรไฟฟ้าเกิดความร้อนสูงจนไหม้ได้